05 กันยายน 2552

Control your anger,before it controls you.

ม่นานมานี้มีคดีความเกิดขึ้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นกรณีที่ลูกชายดาบตำรวจท่านหนึ่งถูกกล่าวหาว่าโยนหม้อสุกี้ใส่โต๊ะลูกชายเจ้าของร้านขายยาทำให้ลูกสาววัยขวบเศษของลูกชายเจ้าของร้านขายยาถูกน้ำสุกี้ลวก ได้ฟังหรืออ่านข่าวนี้แล้วลองจินตนาการสีหน้าของชายที่โยนหม้อสุกี้ดูสิครับ ว่าขณะนั้นหน้าตาของเขาบ่งบอกอารมณ์หรือความรู้สึกอะไร แน่นอน"โกรธ"แต่ผมก็ไม่ได้สืบสาวราวเรื่องต่อไปว่าสาเหตุที่โกรธเคืองกันนั้นเป็นเพราะอะไร

ความโกรธเป็นอารมณ์หรือความรู้สึกอย่างหนึ่งของคนเรา เป็นเรื่องธรรมชาติเป็นอารมณ์พื้นฐานของมนุษย์ที่เกิดได้กับทุกเพศทุกวัย สาเหตุของความโกรธเกิดจากปัจจัยสองอย่าง ได้แก่ ปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอกคือสภาพแวดล้อมที่มากระตุ้นต่อมโมโห โดยผ่านประสาทสัมผัสต่างๆ เช่นการได้เห็นคนที่เราไม่ชอบหน้า ได้ยินในสิ่งที่ฟังแล้วรู้สึกว่าเฮ้ยมันไม่ใช่ หรือฟังแล้วไม่สบอารมณ์ นอกจากนี้อาจเป็นการได้กลิ่นอะไรสักอย่าง(แปลกเหมือนกันนะ มีใครเหม็นอะไรแล้วโกรธไม๊ ก็คงมีแหละ)รวมความแล้วก็คือมีอะไรมาทำให้เราเกิดความรู้สึกไม่พอใจ คับข้องใจ อึดอัดใจ ไม่สบายใจ ซึ่งความรู้สึกแต่ละอย่างนี้สะท้อนระดับความโกรธได้พอสมควร ปัจจัยภายในที่ทำให้เราโกรธได้นั้นก็เกิดความความคิดของเราเอง เช่น วิตกกังวล กลไกการป้องกันตัวเองของจิตใจที่สะท้อนความโกรธออกมาในการกระทำ

ในช่วงสามสี่เดือนที่ผ่านมาในการทำงานและชีวิตประจำวันของผมเต็มไปด้วยความโกรธ โมโหเพื่อนร่วมงาน หงุดหงิดเรื่องเล็กๆน้อยๆ ทำให้ตระหนักได้ว่าตนเองเป็นคนอารมณ์ร้อนเหมือนกัน เมื่อกลับมาทบทวนเรื่องราวจะพบว่า ความโกรธที่เกิดขึ้นนั้นล้วนแล้วแต่ตั้งต้นจากตัวเราเองทั้งสิ้น เป็นการระบายหรือปลดปล่อยความเคืองแค้น คับข้องใจออกมา แสดงว่าไม่ใช่เราทนไอ้หมอนั้นไม่ได้ถึงโกรธ แต่เราทนความโกรธที่อยู่ในตัวเราไม่ได้ต่างหาก จึงปัดมันออกมา(อย่างรุนแรง)

คำสอนในพุทธศาสนาถือว่าความโกรธหรือโทสะเป็นอกุศล พูดให้ง่ายเข้าคือไม่ดี ศาสนาคริสต์ใช้ซาตานเป็นสัญลักษณ์ของความโกรธ โดยเชื่อว่าความโกรธเป็นบาปมหันต์หนึ่งในเจ็ดประการ (Seven deadly sins)ผมเองก็เชื่อเช่นกันว่าความโกรธจะนำพาแต่สิ่งไม่ดีมาสู่เรา และก่อนที่เราที่จะไปโยนหม้อสุกี้ใส่คนอื่น ผมคิดว่าเราควรต้องหัดควบคุมความโกรธเอาไว้ ก่อนที่ไม่เขาก็เราจะเจ็บตัวหรือเสียใจ